ล้างพิษความโกรธ

ล้างพิษ ความโกรธ

       
                                


                                ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดเเห่งชาติ

                                 
              ผู้แต่ง : พระมหาบุญส่วน ปุญฺญสิริ
              เรื่อง : ล้างพิษความโกรธ
              สำนักพิมพ์ : อรมรินทร์ธรรมะ กรุงเทพมหานคร
                             
         ก่อนอื่นความ "โกรธ" มาจากภาษาบาลี "กุธะ" หรือ "โกธะ" ซึ่งแปลว่า กำเริบ ขัดเคือง
     "นักจิตวิทยา" ได้ให้คหมายของความโกรธไว้ว่า สภาวะที่อารมณ์ไม่สมปรารถนา ซึ่งอาจเิกดจากความรู้สึกที่ถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม ถูกหยามหรือถูกรังแกทำให้รู้สึกเจ็บใจ เป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายเกินขีดที่ควบคุมได้ยากแต่สำหรับคนทั่วไป ถ้อยคำจากปากของคนที่กำลังถูกความไม่พอใจบีบคั้น แล้วไม่อาจจะอดกลั้นต่อไปได้ไหวจนต้องตะโกนออกมาดังๆ ว่า 
"กูจะทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วโว้ย!!!" น่าจะเป็นคำอธิบายความโกรธได้อย่างเห็นภาพชัดเจนที่สุด
     ความโกรธ คือ ความรู้สึกเกลียดภายในใจของคนที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างให้ย่อยยับไม่เว้นแม้แต่ตัวของเขาเอง
      ทุกคนจะรู้ดีว่าความโกรธจะทำลายตัวเอง แต่ส่วนน้อยที่จะรู้ว่าเราจะดับความโกรธลงได้อย่างไร
แม้เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นความลับเเต่ก็ยากที่จะทำตามได้ง่าย แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยถ้ายอมรับว่ายังรู้จักความโกรธไม่ดีพอเเละก็ไม่ไช่เรื่องที่น่าตำหนิที่จะยอมรับว่าในชีวิตเคยโกรธมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนและไม่ใช่ที่ให้อภัยกันไม่ไ้ด้หากมีใครโกรธแล้วควบคุมตัวเองอยู่แล้วทำไม่ดีต่อใครๆ เนื่องจากความโกรธทำให้คนทำอะไรแบบลืมตัวได้เสมอ
      อีกอย่างความโกรธมีหลายประเภท โกรธแท้ โกรธเทียม โกรธสมมติ
    "โกรธแท้" เป็นความโกรธที่เกิดจากนิสัยความเป็นคนขี้โกรธเอง โดยมีอารมณ์หรือสิ่งที่ไม่พอใจเป็นเหตุกระตุ้นสุมไฟโกรธนั้นให้ลุกโชนเเรงขึ้น แม้ว่าในบางครั้งไม่ตั้งใจจะโกรธแต่เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ทันเมื่อต้องประจานหน้ากับอารมณ์ที่ไม่พอใจ เลยปะทุอารมณ์ร้อนในใจออกมา
    "โกรธเทียม" ไม่ได้เป็นเรื่องของอารมณ์ แต่เป็นการเสแสร้งคือ แกล้งที่จะโกรธเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ โดยที่ในใจนั้นไม่ได้มีความเคียดแค้นชิงชังเลย และใจก็ไม่ได้ร้อมรุ่มวุ่นวายหรือการสุมที่มาจากไฟความโกรธนั้นเลยแม้แต่เล็กน้อย
    "โกรธสมมติ" เป็นการโกรธในบทบาทการแสดงของเหล่านักแสดงทั้งหลาย เป็นเเค่บทบทาในการแสดงไม่ใช่อารมณ์โกรธจริง แต่ว่าพิษของมันนี้สิร้ายจริงไม่ใช่
       ความน่ารังเกียจของความโกรธ....
ดูได้จากกิริยาอันน่ารังเกียจของคนในคณะที่โกรธ
     ความน่ากลัวของความโกรธ...
ดูได้จากความเดือดร้อนและความเสียหายที่เกิดจากความโกรธ หลายคนเคยเจ็บและเสียใจ แต่ไม่รู้จะดับความโกรธได้อย่างไร


       สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำพ่อสอน"นิสัยแห่งความดี"ด้านต่างๆ ดังนี้
  
     1. ความเพียร คือ ฝึกตนเองให้มีความอดทนต่อสิ่งต่างๆ จากการดูถูกของคน

     2. ความพอดี คือ โกรธแล้วต้องให้อภัยไม่ใช่เคียดแค้น

     3. ความรู้ตน คือ ต้องระงับอารมณ์ของตนเองให้อยู่ ถ้าเรารู้อยู่ว่าเราเป็นคนโกรธง่ายเราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงจากสิ่งนั้น

     4. คนเราจะต้องรับเเละจะต้องให้ คือ การให้อภัยซึ่งกันและกัน

     5. อ่อนโยนเเต่ ไม่อ่อนแอ คือ เราไม่ควรอ่อนแอกับสิ่งร้ายที่เข้ามาในชีวิต เราต้องเข้มแข็งกับมันและแก้ปัญหาอย่างอ่อนโยน

     6. พูดจริงทำจริง คือ พูดไว้อย่างไรแล้วก็ต้องทำมันให้สำเร็จ

     7. หนังสือเป็นออมสิน คือ อ่านหนังสือคราวละหลายวัน เพื่อไขข้อข้องใจต่างๆ

     8. ความซื่อสัตย์ คือ ซื่อสัตย์ต่อตนเองและยอมรับข้อผิดพลาดของเรา

     9. ความเอาชนะใจตนเอง คือ เราสามารถเอาชนะความโกรธนั้นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น